pagemaker

อาจัว-มธุรดา เลาว้าง เด็กสาวชาวม้งที่เชื่อในพลังของการให้

จากการเป็น ‘ผู้รับ’ ผ้าห่มเพื่อคลายหนาว ได้เติบโตเป็นเด็กสาววัยรุ่นน่ารัก ที่เปลี่ยนบทบาทจากผู้รับมาเป็น ‘ผู้ให้’

เรื่อง
pagemaker

อาจัว-มธุรดา เลาว้าง เด็กสาวชาวม้งที่เชื่อในพลังของการให้

จากการเป็น ‘ผู้รับ’ ผ้าห่มเพื่อคลายหนาว ได้เติบโตเป็นเด็กสาววัยรุ่นน่ารัก ที่เปลี่ยนบทบาทจากผู้รับมาเป็น ‘ผู้ให้’

เรื่อง

จากเด็กน้อยผู้มีน้ำเสียงใสแจ๋ว เจ้าของวลี ‘ขอบคุณเจ้า’ อาจัว-มธุรดา เลาว้าง ที่เริ่มต้นจากการเป็น ‘ผู้รับ’ ผ้าห่มเพื่อคลายหนาว ได้เติบโตเป็นเด็กสาววัยรุ่นน่ารัก ที่เปลี่ยนบทบาทจากผู้รับมาเป็น ‘ผู้ให้’ ร่วมเดินทางกับโครงการ ‘ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว’ มาตลอดระยะเวลาหลายปี เป็นอีกหนึ่งตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่พร้อมสานต่อสังคมแห่งการให้ที่ยั่งยืน

 

จากเจตนารมณ์เริ่มต้นของโครงการ ‘ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว’ ที่ต้องการส่งมอบความอบอุ่นสู่คนไทยที่ประสบภัยหนาว ผ่านผ้าห่มผืนเขียวเป็นเอกลักษณ์ในทุกๆ ปี 

 

เมื่อวันเวลาผ่านไป กลายเป็นว่าทั้งคาราวานที่ออกเดินทางไกลค้นพบว่า ไม่ใช่เพียงแค่ความอบอุ่นทางกายเท่านั้นที่เกิดขึ้น แต่ยังหมายความถึงความอบอุ่นทางใจที่ผู้ประสบภัยหนาวได้รับรู้ว่ายังมีคนที่เป็นห่วงพวกเขาอยู่ เกิดเป็นการส่งต่อพลังและสร้างสายใยแห่ง ‘การให้’ ที่ยั่งยืนต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ 

 

ไทยเบฟ รวมใจต้านภัยหนาว

 

เหมือนที่ คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เคยกล่าวเอาไว้ว่า “ในฐานะบริษัทของคนไทย เรามีนโยบายที่ส่งเสริมการแบ่งปันและการช่วยเหลือกันในสังคมไทยมาโดยตลอด เพราะเราเชื่อว่าคนไทยให้กันได้ และบริษัทจะยังคงเน้นในเรื่องของการแบ่งปันเช่นนี้ต่อไปไม่มีสิ้นสุด”

 

แน่นอนว่าการให้ที่ยั่งยืนจะสำเร็จได้ ต้องมีคนรุ่นใหม่มาสืบทอดสานต่อ และหนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่ยืนหยัดอยู่คู่โครงการนี้มาตลอดระยะเวลาหลายปีก็คือ ‘อาจัว’ ที่หลายคนอาจคุ้นเคยจากสปอตโฆษณาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กน้อยน่ารัก ที่มาพร้อมกับคำพูดซื่อๆ ใสๆ สไตล์เด็กเหนือว่า ‘ขอบคุณเจ้า’ ที่ทำให้ใครหลายคนตกหลุมรักและเอ็นดูได้ทันที 

 

ไทยเบฟ รวมใจต้านภัยหนาว

ไทยเบฟ รวมใจต้านภัยหนาว

 

จุดเริ่มต้นของการเป็นผู้ให้ของอาจัวเกิดจากการเป็นผู้รับมาก่อน หลังจากทีมงานคาราวานไออุ่นได้เดินทางไปมอบผ้าห่มที่ดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ ได้เห็นเด็กน้อยตัวเล็กๆ น่ารักน่าชังคนนี้จากการที่เธอมารับมอบผ้าห่มพร้อมกับพ่อแม่ ที่วันนี้กลายเป็นเด็กสาววัยรุ่นน่ารัก พูดจาฉะฉาน มีดวงตาเป็นประกาย รอยยิ้มสดใส และหัวใจแห่งการให้ที่ยั่งยืน

 

“หนูได้รับผ้าห่มตอนอายุ 5 ขวบ ตอนนั้นขึ้นไปหาคุณปู่กับคุณย่าบนดอยปุย ช่วงนั้นเป็นฤดูหนาวประมาณเดือนมกราคม ระหว่างที่หนูกำลังวิ่งเล่นอยู่ก็บังเอิญไปเจอพี่ๆ จากไทยเบฟกำลังแจกผ้าห่มอยู่พอดี พี่ๆ เขาก็มอบผ้าห่มให้

 

“แต่หนูลงมาเรียนในเมืองตั้งแต่เด็ก พอเวลาผ่านไปจนเรียนชั้น ม.3 มีพี่ๆ ไทยเบฟพยายามขึ้นไปหาหนูที่ดอยปุย เอาภาพหนูตอนเด็กที่พี่เขาเคยถ่ายไว้ไปถามชาวบ้านว่าเด็กในภาพอยู่บ้านหลังไหน พอพี่ๆ ได้เจอกับคุณปู่และคุณย่า เขาจึงบอกว่าหนูอยู่ในเมืองเชียงใหม่ เขาเลยลงมาตามหาหนูจนเจอกัน

 

“จากนั้นหนูก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ จนถึงทุกวันนี้ก็ 6-7 ปีแล้ว และหนูก็หวังต่อไปว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ไปเรื่อยๆ เพราะหนูชอบอยู่กับเด็กๆ ทุกครั้งที่ไปลงพื้นที่ก็มักจะมีเด็กๆ มาอยู่รายล้อม หนูชอบโมเมนต์ที่ได้เป็นพี่ เหมือนกำลังดูแลพวกเขาอยู่”

 

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้อาจัวได้รับโอกาสและความช่วยเหลือจากโครงการในด้านทุนการศึกษา ตั้งแต่ช่วงเรียนชั้นมัธยมศึกษา จนถึงปัจจุบันที่อาจัวกำลังศึกษาในระดับปริญญาตรี สาขาสื่อสารมวลชนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

 

ไทยเบฟ รวมใจต้านภัยหนาว

 

จากเด็กดอยที่ดูเขินอาย ก้าวสู่การเปลี่ยนผ่านในทางที่ดีขึ้นจากโอกาสที่ได้รับ มีความกล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ และเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมของโครงการอยู่เสมอ ทั้งช่วยแจกผ้าห่ม แจกขนม หรือบางครั้งก็ช่วยให้คำแนะนำและส่งต่อเรื่องราวความประทับใจที่ครั้งหนึ่งตนเองก็เคยเป็นผู้รับมาก่อน แต่ตอนนี้ขยับขึ้นมาเป็นผู้ให้แล้ว ในวันนี้เด็กๆ หลายคนอาจเป็นได้เพียง ‘ผู้รับ’ ความอบอุ่น แต่เชื่อว่ารอยยิ้ม ความสุข ที่อาจัวและทีมงานทุกคนแสดงออกและพยายามส่งต่อ จะเป็นความอบอุ่นที่แทรกซึมเข้าไปหัวใจ และทำให้พวกเขารู้สึกว่า ในวันนี้เขามีความสุขเมื่อเป็นผู้รับ สักวันหนึ่งเขาก็สามารถมีความสุขในฐานะ ‘ผู้ให้’ ได้เหมือนกัน

 

อาจัวมักพูดเสมอว่า จากที่เคยเป็นผู้รับ ตนเองได้ร่วมส่งต่อโครงการในฐานะผู้ให้ และถ้าเรียนจบแล้ว ถ้าหากว่าสามารถทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับโครงการนี้ได้ ก็จะทำต่อไป

 

“หนูคิดว่าการให้ด้วยความรู้สึกที่อยากให้ย่อมดีกว่าแค่การให้เพราะทำตามหน้าที่ จากการที่หนูเคยเป็นผู้ได้รับมาก่อน สิ่งนี้เลยจุดประกายการเป็นผู้ให้ภายในตัวหนู  และรู้สึกว่าอยากส่งต่อการให้ไปยังคนอื่นๆ ในสังคม หนูคิดว่าการเป็นผู้ให้สำคัญต่อการอยู่ร่วมกัน เพราะเมื่อเราเริ่มต้นเป็นผู้ให้แล้ว การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ก็จะเกิดขึ้นตามมาและขยายวงกว้างในสังคมต่อไปเรื่อยๆ” สาวสวยผู้สืบสานปณิธานแห่งการให้ กล่าวด้วยรอยยิ้ม

ดูเนื้อหาต้นฉบับ

22 December 2019
2561

CONTRIBUTORS

RELATED POSTS

...

BANGKOK METROPOLITAN ADMINISTRATION’S IDENTITY SYSTEM

เรื่อง สันติ บุญสา

Farmgroup ปล่อยภาพตราสัญลักษณ์กรุงเทพมหานคร รวมถึงระบบอัตลักษณ์ของเมืองโฉมใหม่ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา วันนี้อยากชวนมาย้อนดูว่า กระบวนการดีไซน์ผลงานของพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง

...

แชมป์-สมชนะ กังวารจิตต์

เรื่อง สันติ บุญสา

Prompt Design บริษัทออกแบบมือรางวัลที่ให้ความสำคัญกับการเนรมิตบรรจุภัณฑ์นานกว่า 18 ปี

...

ETRANMYRA จักรยานยนต์ไฟฟ้า

เรื่อง สันติ บุญสา

จักรยานยนต์ไฟฟ้า เน้นเจาะตลาด Rider ส่งอาหาร และพัสดุ

...

NOBLE แผนปี 2021 เปิด 11 โครงการ มูลค่า 45,100 ล้าน

เรื่อง สันติ บุญสา

NOBLE ประกาศแผนปี 2021 ทุ่มเปิด 11 โครงการ มูลค่า 45,100 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์

...

Nikon ยุติผลิตกล้องถ่ายภาพในญี่ปุ่นที่มีมากว่า 70 ปี

เรื่อง สันติ บุญสา

Nikon ยุติผลิตกล้องถ่ายภาพในญี่ปุ่นที่มีมากว่า 70 ปี ย้ายมาผลิตในไทยแทน เพื่อลดต้นทุน

...

FiLMiC Pro ปล่อยอัปเดตใหม่ เพิ่ม LogV2 ที่มี Dynamic Range ที่ดีขึ้น

เรื่อง สันติ บุญสา

แอปถ่ายวิดีโอ FiLMiC Pro สำหรับ iOS ได้ปล่อยอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญ อย่าง LogV2 ที่รองรับ Dynamic Range มากขึ้น ลดเสียงรบกวน และการปรับความเข้มสีแบบใหม่

ติดตามข่าว DAYPOSURE