ในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร ความแออัด รวมไปถึงปัญหาด้านมลพิษมีมาก ในขณะที่พื้นที่สีเขียวกลับหายากขึ้น
ในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร ความแออัด รวมไปถึงปัญหาด้านมลพิษมีมาก ในขณะที่พื้นที่สีเขียวกลับหายากขึ้น
เมื่อธรรมชาติเกิดขึ้นในใจกลางกรุง
ทุกวันนี้ผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร ต่างต้องตกอยู่ภายใต้สภาวะที่กดดันจากความแออัด การแข่งขันกันดำเนินชีวิต รวมไปถึงปัญหาด้านมลพิษอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่พื้นที่สีเขียวซึ่งเป็นสถานที่สำหรับการผ่อนคลายความตึงเครียดที่ดีที่สุดอย่างสวนสาธารณะ กลับมีจำนวนไม่เพียงพอที่จะตอบสนองต่อความต้องการของคนกรุงเทพฯ สะท้อนได้จากตัวเลขสัดส่วนพื้นที่สีเขียวของกรุงเทพมหานครต่อประชากร 1 คน (รวมประชากรในทะเบียนราษฎร์และประชากรแฝงที่ใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพมหานคร) ของสำนักสิ่งแวดล้อม และสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล (กรุงเทพมหานคร) นั้นอยู่ที่ประมาณ 3.54 ตรารางเมตร หรือประมาณเตียงนอนขนาด 6 ฟุตเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าค่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกหรือ WHO กำหนดไว้ที่ 9 ตารางเมตร ต่อคน อยู่เกือบ ๆ 3 เท่า และหากเทียบกับเพื่อนบ้านสีเขียวอย่างสิงคโปร์ที่มีสัดส่วนพื้นที่สีเขียวต่อประชากรอยู่ที่ 66 ตารางเมตร ต่อคนแล้ว คนกรุงเทพฯ 1 คนจะมีพื้นที่สีเขียวน้อยกว่าชาวสิงคโปร์ถึง 18 เท่าเลยทีเดียว เห็นตัวเลขแล้วก็นับว่าน่าตกใจอยู่ไม่น้อย
แต่ก็ยังคงมีความหวังสำหรับชาวกรุงอยู่ เพราะในปัจจุบันหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน เริ่มเห็นความสำคัญของพื้นที่สีเขียวและหันกลับมาพัฒนาพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพมหานครกันอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับภาพลักษณ์ของกรุงเทพมหานครให้กลายมาเป็นเมืองสีเขียวอย่างแท้จริง ตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจของการพัฒนาพื้นที่สีเขียวในย่านใจกลางเมืองของกรุงเทพมหานครได้ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาให้ทุกคนได้เข้าไปสัมผัสกับประสบการณ์ธรรมชาติใจกลางกรุง ภายใต้แนวคิด “ป่ากลางเมือง” คือ อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรืออุทยานจุฬาฯ 100 ปี สถานที่ที่เราจะไปเที่ยวชมในครั้งนี้นั่นเอง
บนพื้นที่กว่า 28 ไร่ระหว่างถนนบรรทัดทองและซอยจุฬาลงกรณ์ 9 ที่เคยเป็นย่านพาณิชย์เก่าได้ถูกปรับปรุงให้กลายมาเป็นหนึ่งในพื้นที่สีเขียวที่ทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนโดยรอบและชาวกรุงเทพฯ โดยรวมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีกไม่น้อย
เมื่อเดินเข้าสู่พื้นที่ของสวนจุฬาฯ 100 ปี นอกจากความเขียวชอุ่มของต้นไม้นานาชนิดแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ในทันทีคือกลิ่นของธรรมชาติจากต้นไม้ใบหญ้าที่ลอยเข้ามาเตะจมูก เรียกได้ว่าชวนให้ผ่อนคลายตั้งแต่เดินเข้าประตูมาเลยทีเดียว โดยสวนจุฬาฯ 100 ปี ถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นห้องเรียนกลางแจ้งที่มีคอนเซปต์แตกต่างกันไปในแต่ละโซนที่เรียกว่าห้อง เช่น Herb Room ที่จะรวมพืชสมุนไพรหลากชนิดเอาไว้ Earth Room เป็นโซนที่นั่งที่ทำมาจากดินจากทั่วประเทศ หรือจะเป็น Sand Room บ่อทรายที่เปรียบเสมือนสนามเด็กเล่นของเด็ก ๆ เป็นต้น ซึ่งยังไม่นับรวมต้นไม้ใหญ่นานาพันธุ์ที่เหมาะกับกรุงเทพมหานคร ปลูกกระจายอยู่ทั่วสวนตามแนวคิดป่าในเมือง
นอกจากสวนกลางแจ้งแล้ว ที่นี่ยังมีอาคารอเนกประสงค์ขนาดใหญ่รูปทรงแปลกตาอยู่ 1 อาคารที่ซ่อนตัวอยู่อย่างกลมกลืนภายใต้หลังคาสีเขียว (Green Roof) และเชื่อมต่อกับสวนกลางแจ้งอย่างลงตัว และด้วยความลาดเอียงของหลังคาสีเขียวที่มีทางน้ำและฝายเล็ก ๆ ทำหน้าที่เป็นที่เก็บน้ำฝนให้ไหลไปลงยังพื้นที่ชุ่มน้ำอีกฝั่งหนึ่งของสวน ตามแนวคิดการจัดการน้ำทั้งการกักเก็บน้ำไว้ใช้และการชะลอการระบายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวอาคารด้านล่างอีกด้วย
บริเวณหลังคาสีเขียวตรงนี้ยังเป็นจุดที่สามารถนั่งรับลมเย็น ๆ ในตอนเช้าและเย็น ชมวิวตึกระฟ้าของกรุงเทพมหานครที่อยู่รายรอบสวนแห่งนี้ได้อย่างสวยงาม รวมไปถึงอาคารที่สูงที่สุดของกรุงเทพฯ ในปัจจุบันอย่างอาคารมหานคร ก็สามารถมองเห็นได้จากสวนแห่งนี้
นอกจากภาพของความทันสมัยแล้ว สวนแห่งนี้ยังมีภาพของความเป็นธรรมชาติอยู่เต็มเปี่ยม ฝูงนกกระจอกหลายสิบตัวที่หากินอยู่ตามพงหญ้าที่พลิ้วไหวไปตามสายลมเอื่อย ๆ เป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่งในเมืองใหญ่ แต่กลับเห็นได้ไม่ยากที่นี่ เรียกได้ว่าสวนจุฬาฯ 100 ปี คือจุดที่ธรรมชาติเดินทางมาบรรจบกับความเจริญได้อย่างลงตัวและกลมกลืน
ถึงแม้จะมีพื้นที่เพียง 28 ไร่ และคงไม่สามารถเพิ่มสัดส่วนพื้นที่สีเขียวของกรุงเทพมหานครได้อย่างมีนัยยะสำคัญ แต่สวนจุฬาฯ 100 ปีก็ถือเป็นก้าวแรก ๆ ของการนำพื้นที่อันมีค่าในเมืองหลวงแห่งนี้มาพัฒนาเป็นสวนสาธารณะที่สามารถตอบสนองความต้องการของชุมชนโดยรอบและผู้ที่มาเยี่ยมเยือนในแต่ละวัน รวมทั้งยังมองไปถึงอนาคตที่ทรัพยากรธรรมชาติจะกลายเป็นสิ่งหายากที่ต้องใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ตั้งอยู่ที่ซอยจุฬาลงกรณ์ 9 ตัดกับซอยจุฬาลงกรณ์ 22 บริเวณข้างศูนย์การค้า I’m Park
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 05.00-22.00 นาฬิกา