ไปล่องแก่งกันให้มันกระจาย ที่แก่งกระจาน

ไปล่องแก่งกันให้มันกระจาย ที่แก่งกระจาน

ฮัลโหล แก่งกระจาน เคยผ่านก็หลายครั้งแวะก็หลายหนแต่ยังไม่เคยเที่ยวอย่างจริงจังเลยสักที ครั้งนี้เลยตั้งใจมาเที่ยวแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก 

เรื่อง
ไปล่องแก่งกันให้มันกระจาย ที่แก่งกระจาน

ไปล่องแก่งกันให้มันกระจาย ที่แก่งกระจาน

ฮัลโหล แก่งกระจาน เคยผ่านก็หลายครั้งแวะก็หลายหนแต่ยังไม่เคยเที่ยวอย่างจริงจังเลยสักที ครั้งนี้เลยตั้งใจมาเที่ยวแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก 

เรื่อง

ฮัลโหล แก่งกระจาน เคยผ่านก็หลายครั้งแวะก็หลายหนแต่ยังไม่เคยเที่ยวอย่างจริงจังเลยสักที ครั้งนี้เลยตั้งใจมาเที่ยวแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก  1 วัน 1 คืน กะว่ามาแบบชิลๆ ตะลุยกิน ตะลุยเที่ยว เดินถ่ายรูป ชิลๆ แบบไม่ต้องรีบ หรือทำให้ตรงเวลาเปะๆ   การเดินทางที่สะดวกสุดก็คงเป็นรถส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ไปยังแก่งกระจานนั้นมีระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. โดยประมาณ  วิธีเดินทางใช้เส้นทางเดียวกับรถลงใต้..
 

ทริปนี้เริ่มต้นด้วยการนัดแนะกับสมาชิกที่ร่วมเดินทางไปด้วย ล้อหมุน 7 โมงกว่าๆ ก็เริ่มมุ่งหน้าสู้เป้าภารกิจแรก ตะลุยกินเติมพลังกันสักหน่อย มาเพชรบุรีทั้งทีก็ต้องแวะหาที่อิ่มอร่อยกับอาหารทะเล ร้านนี้มาแบบไม่ต้องวางแผน แค่ตกลงกับสมาชิกว่ามีร้านไหนมั่ง นั่งแคะปู แคะกุ้ง ฟังเสียงลม เสียงคลื่น กินไปคุยกันไปเพลินๆ  ก็ได้ร้านทันที เพราะมีพี่ร่วมทริปบอกร้านนี้เลย เจ๊เหมียวทะเลสด หาดเจ้าสำราญ  หอย หมึก กุ้ง ปู สดๆ จากทะเล 

 

อิ่มอร่อยกันแล้ว ก็ต้องชิลถ่ายรูปเก็บบรรยากาศ ไม่ต้องมากพิธี ที่นี้เขาจัดเป็นมุมเล็กๆ แบบชนเผ่าไว้สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป เลือกหามุมได้ตามอัทยาศัย ชอบมุมแบบไหนก็จัดไป แต่ระวังดินเลนกันด้วยเด้อเห็นเขียวๆ อย่าเผลอไปเหยียบ เดี๋ยวจะหาว่าบ่อเตือน วิถีฮิปเตอร์ก็โดนครึ่งแข้งมาแล้วเด้อ โคลนทั้งนั้น และอีกอย่างอย่าลืมติดหมวกติดแว่นไปด้วยเพราะแดดที่ทะเลแรงใช้ได้เดี๋ยวถ่ายรูปมาตาหยี่จะไม่สวยนะ

หลังจากอิ่มอร่อยกันแล้ว ก็ลุยกันต่อมุ่งหน้าสู่แก่งกระจาน บอกเลยว่ามาทริปนี้ ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะไปที่ไหน รู้แค่ว่ามาแก่งกระจานแล้วมีกิจกรรมล่องแก่ง ขนาดที่พักก็ยังไม่รู้ เลยว่าชื่ออะไร คนขับพาไปนั้นก็ไปด้วยละกัน การไม่ได้วางแผนหรือเตรียมตัวมันก็เป็นเสน่ห์ของการมาทริปแบบนี้เลยหละ คือคุณจะไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง โอ้ยตื่นเต่น เวอร์นิดๆ นี่ขนาดว่าเคยมาแก่งกระจานบ่อยครั้งแล้วนะ  ส่วนที่พักไม่ต้องถามครับว่าดีหรือไม่ดี เอาแค่ว่าไม่ต้องนอนเต๊นกันก็บุญแล้ว เพราะวันที่มาฟ้าคลึ้มเหมือนฝนจะตก 

เก็บของเช็คอินเข้าที่พักกันเสร็จ ก็ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่รีสอร์ทบอกเตรียมตัวล่องแก่งกันจ้าา เพราะวันนี้เขื่อนจะปิดน้ำเร็วจึงต้องรีบทำเวลากันหน่อย เนื่องจากว่ามาแบบไม่ได้เตรียมตัว อุปกรณ์บันทึกภาพจึงใช้แค่โทรศัพท์มือใส่ถุงกันน้ำติดตัวไปด้วย เพราะพกพาสะดวกดูแลง่าย และอย่าลืมใส่เสื้อชูชีพ ก่อนจะล่องแก่งกันเพื่อความปลอดภัย 

สำผัสแรกที่สายน้ำแก่งกระจานคือน้ำเย็นเฉียบ และล่องแก่งไม่ต้องกลัวเปียกเพราะยังไงก็เปียก ด้วยบรรยากาศโดยรอบของน้ำที่ไหลกำลังดี และไม่ลึกมาก ทำให้ร่างกายต้องการแรงปะทะจากน้ำเย็นๆ บวกกับบรรยากาศที่ทุกคนสระเรือก่อนจะถึงฝั่งอีก 5 โค้งน้ำ ปล่อยให้ร่างกายได้ปลดปล่อยจากความเครียดในเมืองใหญ่ ไหลล่องลอยไปตามสายน้ำที่ชุ่มฉ่ำ  แต่อย่าไหลเพลินจนลืมดูโขดหินด้วยหละ เดี๋ยวจะหมดสนุกได้ 


 

ส่วนบรรยากาศสองข้างฝั่งสายธารก็จะพบเจอกับผู้คน ที่หนีเมืองใหญ่มาตั้งแคมป์ พักผ่อน หลบหนีความวุ่นวายอยู่ตลอดสองฝั่งคุณจะไม่เหงาตลอดการล่องแก่งแน่นอน แต่ต้องทำใจไว้อย่างนึงหากคุณคิดจะมาหาความสงบเงียบ  อย่าคาดหวังมากเนื่องจากที่นี้ค่อนข้างที่จะเดินทางมาสะดวก บางครั้งคุณอาจเจอทริปโรงงาน หรือทริปสัมนาที่มาพักผ่อนเหมือนกับคุณ แต่เขาสุดกว่ามีเครื่องเสียง มีดนตรี คาราโอเกะแบบจัดเต็ม บอกเลยใส่ชุดนอนก็ไม่ได้นอนครับสำหรับคนที่หลับยากๆ  ต้องทำไจเผื่อไว้ด้วย หรือควรเช็คกับทางที่พักว่ามีทัวร์ที่ไหนมาพักพร้อมคุณรึเปล่าจะดีที่สุด


 

ตื่นเช้ามาแบบสดใส หลังจากได้นอนเต็มอิ่ม ทำกิจกรรมส่วนตัวแล้วก็รีบจับกล้องลั่นชัตเตอร์ให้สาแก่ใจ แชะ แชะ แชะ ถ่ายแต่ดอกไม้ ไม่ทันไรก็ต้องรีบเช็คเอ้ากลับเพราะมีภาระกิจ ต้องแวะอีกหลายที่ คราวนี้ก็เป้าหมายไปสันเขื่อน ชมวิว ถ่ายภาพเก็บบรรยากาศสวยๆ ของสันเขื่อนกันให้สนุกไปเลย

จากนั้นก็ไปต่อกับแลนด์มาร์คยอดฮิตของเขตอุทธยานแก่งกระจาน ที่นี้มีบริการจุดกางเต๊นสำหรับคนที่ชอบบบรรยากาศแบบใกล้ชิดธรรมชาติ  และมีจุดชมวิวยอดฮิตนั้นก็คือสะพานเหล็ก ที่เชื่อมระหว่างฝั่งอุทยานไปยังเกาะกลางแม่น้ำ แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาติให้เดินข้ามไปนะครับ เพราะสะพานค่อนข้างจะเก่าแล้วเกรงจะเป็นอันตรายกับนักท่องเที่ยว แต่ก็สามารถเดินเข้าไปถ่ายรูปได้คราวละไม่เกิน 25 คน เท่านั้น หากใครคิดจะมาถ่ายแบบชิลๆ แนะนำว่าวางแผนมาในช่วงวันปรกติที่ไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์จะดีที่สุด เพราะนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะพอสมควร ส่วนคนที่อยากล่องเรื่อไปชมเกาะกลางน้ำ ที่นี้ก็มีเรื่อคอยบริการแก่นักท่องเที่ยว แต่เป็นแบบเสียตังนะครับ สำหรับคนที่อยากนั่งเรื่อชมบรรยากาศแม่น้ำก็ได้ความชิลไปอีกแบบ 





เป็นทริปง่ายๆ ที่เดโพเชอร์ dayposure นำมาเสนอสำหรับคนที่ชอบเที่ยวบรรยากาศแบบธรรมชาติ ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนชอบเที่ยวชิลๆ ครับ

18 June 2018
2511

CONTRIBUTORS

RELATED POSTS

...

BANGKOK METROPOLITAN ADMINISTRATION’S IDENTITY SYSTEM

เรื่อง สันติ บุญสา

Farmgroup ปล่อยภาพตราสัญลักษณ์กรุงเทพมหานคร รวมถึงระบบอัตลักษณ์ของเมืองโฉมใหม่ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา วันนี้อยากชวนมาย้อนดูว่า กระบวนการดีไซน์ผลงานของพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง

...

แชมป์-สมชนะ กังวารจิตต์

เรื่อง สันติ บุญสา

Prompt Design บริษัทออกแบบมือรางวัลที่ให้ความสำคัญกับการเนรมิตบรรจุภัณฑ์นานกว่า 18 ปี

...

ETRANMYRA จักรยานยนต์ไฟฟ้า

เรื่อง สันติ บุญสา

จักรยานยนต์ไฟฟ้า เน้นเจาะตลาด Rider ส่งอาหาร และพัสดุ

...

NOBLE แผนปี 2021 เปิด 11 โครงการ มูลค่า 45,100 ล้าน

เรื่อง สันติ บุญสา

NOBLE ประกาศแผนปี 2021 ทุ่มเปิด 11 โครงการ มูลค่า 45,100 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์

...

Nikon ยุติผลิตกล้องถ่ายภาพในญี่ปุ่นที่มีมากว่า 70 ปี

เรื่อง สันติ บุญสา

Nikon ยุติผลิตกล้องถ่ายภาพในญี่ปุ่นที่มีมากว่า 70 ปี ย้ายมาผลิตในไทยแทน เพื่อลดต้นทุน

...

FiLMiC Pro ปล่อยอัปเดตใหม่ เพิ่ม LogV2 ที่มี Dynamic Range ที่ดีขึ้น

เรื่อง สันติ บุญสา

แอปถ่ายวิดีโอ FiLMiC Pro สำหรับ iOS ได้ปล่อยอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญ อย่าง LogV2 ที่รองรับ Dynamic Range มากขึ้น ลดเสียงรบกวน และการปรับความเข้มสีแบบใหม่

ติดตามข่าว DAYPOSURE